เบน ไวท์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ ออกมายอมรับว่าแทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับฟุตบอลโลกมาตั้งแต่เด็กแล้ว เนื่องมาจากครอบครัวของตนเองไม่ใช่แฟนฟุตบอล
พ่อกับแม่ของ ไวท์ ไม่ใช่แฟนฟุตบอล และก็ไม่เคยดูฟุตบอลโลกเลย
หากว่าเขาจะยืนยันว่าตอนนี้พวกเขาดูตนเล่นทุกเกม และก็เดินทางมายังกรุงโดฮาเพื่อตามเชียร์เขาในฐานะส่วนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษชุดลุยเวิลด์ คัพ
มันเป็นครอบครัวเพื่อนๆที่เป็นคนส่งเขาเข้าสู่เกมฟุตบอล และก็ด้วยเหตุนี้เขาก็เลยไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับฟุตบอลโลกในบ้านตนเองเลย โดยอ้างถึงจุดลูกโทษชัยของ เอริก ดายเออร์ ในเกมกับ โคลอมเบีย เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เป็นช่วงเวลาฟุตบอลโลกที่สำคัญที่สุดของเขา
เมื่อถูกถามคำถามว่ามีความทรงจำที่พิเศษหรือไม่ ไวท์ ตอบว่า “ก็ไม่ได้เยอะอะไรมากมาย จุดลูกโทษของ เอริก (ดายเออร์) น่าจะเป็นความรู้สึกนั้น”
“ในช่วงซัมเมอร์ผมนั่งรถไปยังชายหาดในบอร์นมัธ และก็ดูมันบนจอใหญ่ แต่ว่าปกติแล้วผมจะไม่ดูฟุตบอลในอาทิตย์นั้น”
“ผมไม่ได้เติบโตมาพร้อมกับการดูฟุตบอล ในบ้านของผมก็ไม่ได้เปิดฟุตบอลดู และก็ถ้าเกิดผมจะเปิดดูสักนิดก็เพื่อที่ผมจะได้ออกไปข้างนอกแล้วลองทำตามคนอื่น หรือฝึกฝนความสามารถ มันไม่เคยอยู่ในชีวิตของผม หรือไม่แต่พ่อแม่ผมเลย”
“พ่อของผมเป็นแค่คนเดินดิน เป็นชาวสวน เป็นคนทำงานที่ไม่ได้มีความคลั่งไคล้กีฬาใดๆ”
“แม่ของผมนั้นบางทีก็อาจจะ เธอมีญาติพี่น้อง 6 คน และก็พวกเขามีสนามบอลขนาดใหญ่ในสวนเมื่อตอนที่พวกเขายังเด็ก และก็พวกเขาน่าจะได้เล่นบ่อยมาก
เปิดประวัติ ‘เบน ไวท์’
เบน ไวท์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 1997 ไวท์ เกิดที่เมืองพูล ทางตอนใต้ของอังกฤษ เขามีส่วนสูง 182 เซนติเมตร ฝีเท้าของเขาไม่ได้โดดเด่นตั้งแต่เด็ก เพราะว่ากว่าจะได้เข้าสังกัดของทีมเยาวชนของ เซาธ์แฮมป์ตัน ก็อายุ 16 ปี ในปี 2014 และก็ไม่สามารถขึ้นมาอยู่ในทีมชุดหลักได้ เล่นแต่ในระดับทีมเยาวชน กระทั่งเขาตัดสินใจย้ายออกไปอยู่กับ ไบรท์ตัน ในปี 2016 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นฟุตบอลอาชีพแท้จริงของเจ้าตัวในวัย 18 ย่าง 19 ปี แต่ทว่า ไบรท์ตัน ก็ไม่เคยให้โอกาสกับดาวเตะรายนี้ ทั้งที่ทีมของพวกเขายังอยู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในตอนนั้น เลือกจะปล่อย ไวท์ ไปเล่นให้ นิวพอร์ท เคาท์ตี้ (2017-18) บนเวทีลีกทู , ปีเตอร์โบโร่ (2018-19) บนลีกวัน และ ลีดส์ ยูไนเต็ด (2019-20) ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ก่อนที่เขาจะยกระดับตัวเอง จากแข้งโนเนมสู่แข้งน่าจับตามอง ด้วยการลงเล่นให้ ยูงทอง ครบทั้ง 46 นัด พาทีมเป็นแชมป์ เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดในรอบ 16 ปี ได้อย่างยิ่งใหญ่
โดยฤดูกาล 2020-21 ไบรท์ตัน ตัดสินใจได้คว้ส ไวท์ กลับมาใช้งานเป็นครั้งแรกในวัย 23 ปี เป็นการรับใช้ต้นสังกัดที่แท้จริงครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาที่นี่ในปี 2016 หลังจากที่เคยลงเล่นในแมตช์ไม่เป็นทางการสามนัดในซีซั่นแรกที่ย้ายมา กระทั่งฟอร์มของเขาก็ฉายแสง ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟให้กับ “นกนางนวล” ได้อย่างแข็งแกร่ง จนเนื้อหอม มีข่าวว่าหลายทีมยักษ์ใหญ่อยากได้ตัวไปร่วมทัพเดือน ม.ค. 2021 แต่ทีมก็ยังใจแข็งเลือกไม่ปล่อยออกไป โดยตั้งค่าตัวเอาไว้สุดโหดถึง 60 ล้านปอนด์ขึ้นไป ก่อนที่เขาจะลงเล่น 39 นัดรวมทุกรายการให้ ไบรท์ตัน พาทีมจบอันดับ 16 ของตารางพรีเมียร์ลีก
เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์ 2022 กลายเป็นอาร์เซนอล ที่มีปัญหาเรื่องของแนวรับ ตัดสินใจทุบคลังกว่า 50 ล้านปอนด์ คว้าตัว ไวท์ มาร่วมทีม ชนิดที่เรียกว่ามีเสียงครหามากมาย จากค่าตัวที่ค่อนข้างโอเวอร์เกินไป แต่ปืนใหญ่ก็เลือกที่จะซื้ออนาคต เพราะเขามีอายุแค่ 23 ปีเท่านั้น โดยในช่วงแรก ไวท์ มีปัญหาการปรับตัว แม้จะได้ลงเล่นเยอะ แต่ฟอร์มยังไม่ดี ก่อความผิดพลาดบ่อยครั้งจนเป็นที่ไม่โปรดปราณของแฟนๆ รวมทั้งฟอร์มของทีมก็เป๋จนเคยตกไปอยู่ใกล้โซนตกชั้นมาแล้ว
แต่หลังจากผ่านไปครึ่งทางของฤดูกาล ไวท์ กลับมาพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นกองหลังที่แข็งแกร่ง ลูกกลางอากาศไม่เป็นรองใคร จนยืนตัวจริงของทีมแบบยาวๆ และเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ อาร์เซนอล ฟอร์มดี มีลุ้นจบท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ ด้วยการมี 54 คะแนน จาก 28 นัดในปัจจุบัน ซึ่งเขากลายเป็นที่รักใคร่ของแฟนบอล กระทั่งขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ มีลุ้นไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ปลายปีนี้อย่างแน่นอน
อาร์เซนอลได้เปิดตัว เบน ไวท์ ปราการหลังคนใหม่ค่าตัว 50 ล้านปอนด์
อาร์เซนอลได้เปิดตัว เบน ไวท์ ปราการหลังคนใหม่เจ้าของค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลลำดับที่ 3 ของสโมสรจากไบรท์ตันเป็นที่เรียบร้อย
ไวท์เป็นหนึ่งในนักเตะที่ มิเกล อาร์เตตา นายใหญ่ของทีมต้องการได้ตัวมาเสริมทีมมากที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหาในเกมรับ โดยกองหลังดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษที่ได้รับการเรียกตัวไปลุยยูโร 2020 ที่ผ่านมา ด้วยเป็นหนึ่งในกองหลังที่ถูกจับตามองจากหลายสโมสรยักษ์ใหญ่เนื่องจากมีความสามารถสูง สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง และยังมีอายุแค่ 23 ปี น้อยกว่า ดาวิด ลุยซ์ กองหลังชาวบราซิลที่ถูกปล่อยตัวออกจากทีม
“เบนเป็นกองหลังที่ฉลาด สามารถเล่นกับบอลได้ดี และสไตล์ของเขาก็เข้ากับเราอย่างมาก” อาร์เตตากล่าว “และแน่นอนเขายังเด็ก ดังนั้นด้วยอายุและโปรไฟล์ของเขาเข้ากับสิ่งที่เราพยายามสร้างที่นี่ เราต่างรอที่เบนจะได้เป็นศูนย์กลางในแผนการระยะยาวของเรา”
ก่อนหน้านี้อาร์เซนอลได้ นูโน ตาวาเรส แบ็กซ้ายจากทีมเบนฟิกา และ อัลแบร์ แซมบี โลกองกา กองกลางดาวรุ่งจากอันเดอร์เลชต์มาด้วยค่าตัว 7.2 ล้านปอนด์ และ 15.75 ล้านปอนด์ตามลำดับ ซึ่งหลังจากนี้ทางด้าน เอดู ผู้อำนวยการสโมสรจะพยายามเจรจาเพื่อรั้งตัว กรานิต ชากา และ เฮกตอร์ เบเยริน สองนักเตะกำลังหลักของสโมสรให้อยู่กับทีมต่อไป