แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชือด ลิเวอร์พูล แบบสุดมัน 3-2 ลิ่วรอบ 8 ทีม ศึกคาราบาวคัพ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชือด ลิเวอร์พูล

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอล ลีก คัพ อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 22 เดือนธันวาคม 65 “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” หงส์แดง

แมนเชสเตอร์ เชือด ลิเวอร์พูล

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้ตัวจริงผสมสำรอง

มีทาง เควิน เดอ บรอยน์, เออร์ลิ่ง ฮาลันด์, อิลกาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ และโรดรี้ เป็นแกนหลัก ด้านหงส์แดง แชมป์เก่า ก็ได้ตัวหลักกลับมาหลายคน โมฮาเหม็ด ซาลาห์,

ดาร์วิน นูนเญซ เป็นแนวรุกด้านบน โดยมี ติอาโก้ อัลคันทาร่า คุมจังหวะกลางสนาม

ผลปรากฎว่า ครึ่งแรกมา 10 นาที แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 เดอ บรอยน์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากรอบเขตโทษ เออร์ลิง ฮาลันด์ โฉบมายิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเบียดเสาแรกเข้าไป

แล้วต่อจากนั้นนาทีที่ 20 หงส์แดง ตีเสมอ 1-1 เจมส์ มิลเนอร์ จ่ายให้ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ยิงเรียดเข้าไปตุงตาข่าย ก่อนที่จะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง นาทีที่ 47 แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 เมื่อ ริยาด มาห์เรซ ปั่นด้วยซ้ายเข้าไป แม้กระนั้นนาทีที่ 48 หงส์แดง ตีเสมอเป็น 2-2

ดาร์วิน นูนเญซ พาบอลเข้าจุดโทษก่อนจ่ายให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงด้วยซ้ายเข้าไป

แล้วนาทีที่ 58 แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาไปให้ นาธาน อาเก โหม่งเข้าไปเลย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะลิเวอร์พูล

เรือใบสีฟ้า ชนะ หงส์แดง 3-2 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป

ชื่อนักฟุตบอลที่ลงสนาม

แมนฯ ซิตี้ : สเตฟาน ออร์เตก้า – ริโก้ ลูอิส, มานูเอล อคานจี (จอห์น สโตนส์ น.61), อายเมริค ลาปอร์กต์, นาธาน อาเก้ – เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน

(แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.88), โรดรี้ – ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิง ฮาลันด์ (ฟิล โฟเด้น น.73), โคล พัลเมอร์ (แจ็ค กรีลิช น.73)

ลิเวอร์พูล : ควีวีน เคลเลเฮอร์ – เจมส์ มิลเนอร์, โจ โกเมซ, โจเอล มาติป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.57), สเตฟาน บายเซติช (ฟาบินโญ่ น.46),

ติอาโก้ อัลกันตาร่า (นาบี เกอิต้า น.70) – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.46)

ประวัติ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ประวัติ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เป็นสโมสรฟุตบอล ที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1880 ในชื่อเซนต์มาร์ก (เวสต์กอร์ดอน) และเวลาต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลสมาพันธ์อาร์วิก ในปี ค.ศ.1887 และชื่อล่าสุดคือ แมนซิตี้ ในปี ค.ศ.1894 ซึ่งใช้สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์ เป็นสนามเหย้า

มาตั้งแต่ ปี ค.ศ.2003 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ใช้สนามเมนโรด เป็นสนามเหย้าตั้งแต่ ปี ค.ศ.1923 เป็นสโมสรที่ได้รับความสำเร็จตั้งแต่ช่วงปลายยุค 1960 จนถึงช่วงต้นยุค 1970 ซึ่งชนะเลิศลีกแชมเปียนชิพ, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ และยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ ภายใต้การคุมทีมสโมสรของโจ เมอร์เซอร์ และมัลคอล์ม อัลลิสัน

ในซีซั่น 2011-2012 แมนเชสเตอร์ซิตี้ มีผลงานดีมาโดยตลอดตั้งแต่เปิดซีซั่นลมา โดยขึ้นเป็นที่ 1 ของตารางคะแนน และยึดอันดับนี้มาตลอด และก็มีบางช่วงที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมืองขึ้นแซงไปเป็นที่ 1 บ้าง จนกระทั่งมาจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของการแข่งขัน ทั้งสองมีคะแนนเท่ากัน คือ 86 คะแนน แต่ผลต่างของประตูได้เสียของแมนเชสเตอร์ซิตีดีกว่าถึง 8 ลูก โดยแมนเชสเตอร์ซิตีจะต้องพบกับ ควีนปาร์คแรนเจอส์ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม สนามของตนเอง

โลโก้

ในขณะที่แมนฯ ยู เป็นฝ่ายออกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งทั้งคู่ต้องการชัยชนะทั้งคู่ ถ้าแมนฯ ยู ชนะ แล้ว

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทำได้แค่เสมอหรือแม้กระทั่งแพ้ แชมป์จะตกอยู่ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทันที ปรากฏว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะซันเดอร์แลนด์ไปได้ 0-1 ประตู แล้วในเกมที่

แมนเชสเตอร์ ซิตี้พบกับควีนปาร์คแรนเจอส์นั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่อาจทำอะไรได้อย่างถนัดนี่เกือบตลอดการแข่งขัน เพราะว่านักฟุตบอลแต่ละคนถูกประกบตลอด และกลายเป็นควีนปาร์คแรนเจอร์ส

ขึ้นนำไป 1-2 ประตู ในนาทีที่ 60 จนกระทั่งถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกกลับขึ้นมานำในนาทีที่ 91 และ 94 อย่างปาฏิหาริย์ ชนะไป 3-2 และได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปครอง หลังจากรอคอยมานานกว่า 44 ปี

Lena Wheeler

Learn More →