คาร์โล อันเชล็อตติ ที่ปรึกษาใหญ่ของ เรอัล มาดริด ออกมาตอบคำถามสื่ออย่างชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของ เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า ที่กำลังกลายเป็นเป้าหมายของ อาร์เซนอล หัวหน้าฝูงใน พรีเมียร์ลีก โดยเขากล่าวว่าผู้เล่นรายนี้อยู่ในสถานะที่แตะต้องไม่ได้โดยเด็ดขาด ตามรายงานจาก โฟร์โฟร์ทู
มิเกล อาร์เตต้า อยู่ในตอนของการมองหากองกลางคนใหม่
ที่จะเข้ามาช่วยทีมในช่วงที่เหลือของฤดูกาลถึงแม้ว่าพวกเขาจะพึ่งเซ็นสัญญากับ เลอันโดร ทรอสซาร์ด จาก ไบรท์ตัน มาหมาดๆโดยดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสกลายเป็นรายล่าสุดที่มีข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายมายังถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ด้วยสัญญายืมตัวจนถึงจบฤดูกาลด้วย
อย่างไรก็ตาม อันเชล็อตติ ก็ได้ออกมาพูดถึงอนาคตของ คามาวินก้า ภายหลังจากที่ส่งนักเตะลงสนามครบ 90 นาทีในเกม โคปา เดล เรย์ เอาชนะ บียาเรอัล ไปได้อย่างหวุดหวิด 3-2 เมื่อกลางอาทิตย์ว่า
“นักฟุตบอลคนนี้แตะต้องไม่ได้ ไม่ใช่แค่พวกเก๋าๆอย่าง โทนี โครส และ โมดริช แต่คนอื่นๆที่ทุ่มเทให้กับทีมก็เช่นกัน อย่าง ดานี เซบายอส ซึ่งเป้นคนที่ทุ่มเทในเกมล่าสุดอย่างมากด้วย”
“สำหรับผมแล้วทุกคนเป็นผู้ที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรแห่งนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้ลงสนามกันทุกเกมหรอกนะ” อันเช กล่าว
สำหรับสถิติของ คามาวินก้า ในฤดูกาลนี้เจ้าตัวได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงไปเพียง 11 นัดจากการลงสนามทั้งหมด 26 ในทุกรายการ ซึ่งทำให้มีข่าวว่าเขาอาจต้องมองหาการย้ายทีมเพื่อลงเล่นอย่างเป็นประจำต่อไปและมี อาร์เซนอล ที่ให้ความสนใจตามที่เป็นข่าว
5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดบิ๊กแมตช์ “แอธเลติก บิลเบา VS เรอัล มาดริด”
ฟุตบอลลาลีกา สเปน นัดที่ 18 ของฤดูกาล คู่ใหญ่สุดประจำสัปดาห์นี้ แอธเลติก บิลเบา เปิดบ้านต้อนรับ เรอัล มาดริด แข่งขันคืนวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม เวลา 03:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ชัยในนัดนี้ มีความหมายเป็นอย่างยิ่งต่อทั้ง 2 ทีม ภายหลังต่างฝ่ายต่างแพ้มาในเกมบิ๊กแมตช์เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และนี่ก็คือ 5 ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองของคู่นี้
โอกาสกลับมาหลังจากพ่ายแพ้ในเกมใหญ่
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ทีม ต่างแพ้ทีมคู่แข่งขันสำคัญ ด้วยสกอร์ 1-3 ทั้งสอง โดย แอธเลติก บิลเบา แพ้ เรอัล โซเซียดัด ในศึกบาสก์ ดาร์บี้ ขณะที่ ราชันชุดขาว แพ้ บาร์เซโลน่า ในซูเปอร์คัพ
นับตั้งแต่ลาลีกากลับมาจากพักเบรกฟุตบอลโลก บิลเบา ไม่ชนะใครมาแล้ว 3 นัดติด ส่วน เรอัล มาดริด การแพ้ บียาร์เรอัล ในเกมแรกของปี 2023 จัดว่าเสียหายพอเหมาะพอควรกับการลุ้นป้องกันแชมป์
เบนเซม่า ลุ้นทำอันดับดาวซัลโวลาลีกา
คาริม เบนเซม่า แนวรุกวัย 35 ปี ของ เรอัล มาดริด กลับมาอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมอีกรอบ ภายหลังจากพักเบรกฟุตบอลโลก เมื่อยิง 5 ประตู จาก 4 นัดหลังสุด ทั้งในลาลีกา และซูเปอร์คัพ
ปัจจุบัน เบนเซม่า ทำไป 8 ประตู รั้งอันดับ 3 ร่วมในทำเนียบดาวซัลโวลาลีกา ฤดูกาลนี้ ตามหลัง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ของ บาร์เซโลน่า (13 ประตู) และ โฆเซลู ของ เอสปันญ่อล (10 ประตู)
บัลเบร์เด้ – อันเชล็อตติ ดวลกันหนแรกรอบ 8 ปี
เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ แล้วก็ คาร์โล อันเชล็อตติ ได้โอกาสดวลความสามารถกันเป็นครั้งแรกในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2012/13 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ระหว่าง บาเลนเซีย กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
สถิติการเจอกันของทั้ง2 อันเชล็อตติ ชนะ 3 ครั้ง เท่ากัน 2 ครั้ง รวมทั้งชัยเพียงแต่ครั้งเดียวของ บัลเบร์เด้ คือการพบกันครั้งล่าสุดในลาลีกา ฤดูกาล 2014/15 ที่ซาน มาเมส ด้วยสกอร์ 1-0
ราชันชุดขาวตั้งเป้ารักษาสถิติไม่มีพ่ายแพ้ที่ซาน มาเมส
หนล่าสุดที่ เรอัล มาดริด บุกไปแพ้ แอธเลติก บิลเบา ที่ซาน มาเมส เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2015 แต่จากนั้น พวกเขาไม่แพ้ที่นั่นอีกเลย 7 ฤดูกาลติดต่อกัน รวมทั้งชนะรวดใน 3 ฤดูกาลหลังสุด
ถึงแม้ บิลเบา ต้องการชัยเป็นอย่างยิ่ง เพื่อบีบคั้นคู่แข่งขันลุ้นท็อปโฟร์ แต่ราชันชุดขาวก็ตั้งเป้าที่จะเก็บ 3 แต้มเช่นกัน เพื่อลุ้นแชมป์ต่อไป และรักษาสถิติไม่มีปราชัยที่ซาน มาเมส ต่อเนื่องเป็นซีซั่นที่ 8
สองพี่น้องวิลเลียมส์ของ บิลเบา เก่งทั้งยิงทั้งจ่าย
อินากิ และ นิโก้ วิลเลียมส์ 2 พี่น้องตัวรุก แอธเลติก บิลเบา กำลังเป็นที่น่าจับตา เนื่องจากทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และต่างฝ่ายต่างเป็นผู้นำของสโมสรในการทำคะแนนและแอสซิสต์ตามลำดับ
อินากิ วัย 28 ปี ยิงไปแล้ว 5 ประตู สูงสุดภายในทีม ร่วมกับ กอร์กา กูรูเซต้า ส่วน นิโก้ วัย 20 ปี ทำ 4 แอสซิสต์ สูงสุดภายในทีมเช่นเดียวกัน แล้วก็มีโอกาสที่จะลงสนามพร้อมกันเป็นครั้งแรกในวันอาทิตย์นี้