คลิ้นส์มันน์ ตำนานตัวรุกชาวเยอรมัน มั่นใจว่า ในศึก ฟุตบอลโลก 2026 ทีมชาติ อังกฤษ จะแกร่งกว่าเดิมแน่ ชี้ ในบอลโลกทีนี้ มีแต่ว่าเรื่องที่เป็นแง่บวกสำหรับพวกเขา
อังกฤษ ถูก ฝรั่งเศส เขี่ยตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย
อังกฤษ มีอันต้องฝันสลาย หลังถูกทีมชาติ ฝรั่งเศส เขี่ยตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เมื่อคืนวันเสาร์ ที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา
”โดยรวมแล้วมันเป็นในทางบวกอย่างมากมายสำหรับทีมชาติ อังกฤษ” คลินส์มันน์ กล่าวกับ โกล
”จริงๆคู่ระหว่าง ฝรั่งเศส กับ อังกฤษ นี่ควรเจอกันในรอบรองชนะเลิศ หรือ รอบชิงชนะเลิศ โชคไม่ดีเอาเสียเลยที่ต้องมีหนึ่งทีมเก็บกระเป๋ากลับบ้าน”
”ส่วนตัวคิดว่า (อังกฤษ) ยังคงเป็นทีมที่กำลังเติบโต นี่คือทีมที่สามารถดีขึ้นได้อีกสำหรับในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”
”พวกเขามีนักเตะที่มีพรสวรรค์มากมาย พวกเขาจะเก่งขึ้น รวมทั้งมีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น ภายหลังผ่านสามทัวร์นาเมนต์มา ซึ่งล้วนเป็นเชิงบวกทั้งสิ้น”
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในอีก 4 ปีข้างหน้า แข้งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม จะมีอายุ 23 ปี, บูคาโย่ ซาก้า จะอายุ 25 ปี รวมทั้ง ฟิล โฟเด้น จะอายุ 26 ปี
ประวัติ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์
เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1964 เป็นอดีตนักเตะชาวเยอรมันในตำแหน่งกองหน้า เจ้าของฉายา “ฉลามขาว” คลิ้นส์มันน์เคยเป็นผู้จัดการทีมชาติเยอรมนี และทีมบาเยิร์นมิวนิก ในฐานะนักเตะ คลิ้นส์มันน์ลงเล่นกับหลายสโมสรในยุโรป และยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญคนหนึ่งของทีมชาติเยอรมนีตะวันตกในชุดชนะเลิศฟุตบอลโลก 1990 และชุดชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป 1996 คลิ้นส์มันน์สามารถทำประตูในการลงเล่นทีมชาติใน 6 การแข่งขันที่ลงทำการแข่งขัน ตั้งแต่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1988 ถึงฟุตบอลโลก 1998
ปี 1988 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตครั้งแรกของคลินซี่ เมื่อทำประตูจนได้ตำแหน่งดาวซัลโว บุนเดสลีกา ตามด้วยได้รับโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมัน จุดเล็กๆที่ดูจะเป็นจุดมืดของ คลิ้นส์มันน์ คือการปราชัยคาบ้านให้กับ ฮอลแลนด์ ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ในยูโร 1988
ในช่วงฤดูร้อนปี 1989 เจ้าฉลามขาวก็ต้องเดินทางไปค้าแข้งยังต่างบ้านต่างเมืองเป็นครั้งแรก และจุดหมายใหม่ก็คือ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ทีมรวมดาวยุโรปในขณะนั้น รวมถึงฮีโร่เพื่อนร่วมชาติอย่าง โลธาร์มัทเธอุส และ แอนเดรียส เบรห์เม่ ที่ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานอลังการได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก พางูใหญ่เถลิงแชมป์ กัลโช่ เซรี่ อา
คลิ้นส์มันน์ นับเป็นนักฟุตบอลต่างชาติที่สามารถปรับตัวเข้ากับระบบของทีมที่ไม่ใช่บ้านเกิดของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับวัฒนธรรมใหม่ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยไม่วาจะเป็นทีมในอังกฤษ,อิตาลี,เยอรมัน หรือฝรั่งเศส
หลังจากประสบความสำเร็จได้สคูเด็ตโต้ เป้าหมายต่อไปของฉลามขาวก็คือ ลีก เอิง ในฝรั่งเศสกับ โมนาโก ในปี 1992 สาเหตุที่ทำให้คลินซี่ เนื้อหอมปานนั้น นอกเหนือจากฟอร์มร้อนแรงแล้วยังมีดีกีแชมป์โลกปี 1990 การันตีด้วย เมื่อเป็นส่วนหนึ่งของ เยอรมัน ตะวันตก ไปคว้าแชมป์ที่ อิตาลี
คลิ้นส์มันน์ เป็นผู้จัดการทีมชาติเยอรมนี
ในชุดอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2006 ในทัวร์นาเม้นต์ เวิล์ดคัพ 2006 ที่เยอรมัน คลิ้นส์มันน์ พาทีมเยอรมัน ทะลุเข้าถึงรอบ4ทีมสุดท้าย ก่อนแพ้อิตาลีอย่างน่าเสียดายไป 2-0 จนไปถล่มชนะโปรตุเกส 3-1 คว้าที่3ไปครอง ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่สร้างชื่อให้กับเขาเป็นอย่างมาก ในการคว้าที่สามในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ทั้งๆที่เพิ่มคุมทีมเป็นครั้งแรกได้
หลังจบทัวร์นาเม้นต์ เขาปฏิเสธที่จะต่อสัญญากับทีม โดยให้เหตุผลว่า ต้องการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวมากกว่า หลังจากมีข่าวลือในการที่จะเข้ามาคุมทีมต่างๆ รวมถึงสุดยอดทีมอย่าง “ลิเวอร์พูล” แต่ท้ายที่สุด คนที่ได้ประเดิมการคุมทีมสโมสรครั้งแรกของเขา ก็คือทีม”เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิค ของลีกเยอรมันนี่เอง แต่ฤดูกาลแรก ของการคุมทีมสโมสรไม่ดีนัก เขาพาทีมเสือใต้รั้งอันดับสามในขณะที่เหลือการแข่งอีกไม่กี่แมทช์ มีสิทธิ์หล่นลงมาอันดับ 4 ซึ่งจะทำให้ไม่ได้ไปเล่นในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกด้วยซ้ำ ทางบอร์ดบริหารเลยมีมติ ไล่คลิ้นส์มันน์ ออกจากตำแหน่ง ในท้ายที่สุด
นอกจากนี้ยังเป็นผู้ฝึกสอนให้กับบาเยิร์นมิวนิก เมื่อเดือนกรกฎาคม 2008 และต่อมาเป็นผู้จัดการทีมชาติสหรัฐอเมริกา ก่อนจะถูกปลดในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2016 เพราะว่าผลงานการคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 โซนคอนคาแคฟ ออกมาย่ำแย่ ที่ก่อนหน้านั้นสหรัฐอเมริกาแพ้ให้กับเม็กซิโกและคอสตาริกาถึง 2 นัดติดต่อกัน